Category: หนังสือ

เคยรู้สึกมั๊ยว่าคุณเบื่อที่จะทำงานประจำ เบื่อชีวิตที่จะต้องเช้ามาทำงาน เย็นกลับบ้าน เช้ามาทำงาน เย็นกลับบ้าน เป็นแบบนี้ทุกวัน และรู้สึกว่าวันหยุดมันเหมือนสวรรค์ซะจริง อยากจะใช้เวลาวันหยุดนี้ นอนซะให้เต็มอิ่ม เที่ยวให้หนำใจ หรือทำอะไรตามที่ใจต้องการในวันหยุดที่แสนจะมีเวลาอันจำกัดจำเขี่ย พอรู้สึกตัวอีกครั้งพรุ่งนี้เราก็จะต้องเข้าสู่วงจรอีกแล้ว นั้นคือต้องไปทำงาน เพราะนี่คือความรู้สึกของผม ความรู้สึกของลูกจ้างประจำ ที่ต้องทำงานเพื่อเงินเดือน ที่พล่ามมาทั้งหมดก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่อยากจะเริ่มต้นเรื่องนำเข้าสู่หนังสือที่ผมได้อ่าน หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า “การลาออกครั้งสุดท้าย The Last Resignment” เห็นหนังสือเล่มนี้แว๊บแรก มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมได้เห็นใครมาทำเงินหล่นไว้เนี่ย มันช่างน่าสนซะเหลือเกินสำหรับชีวิตพนักงานเงินเดือนอย่างผม ที่อยากจะหลุดออกจากวงจรนี้ ด้านบนหัวหนังสือก็จะเขียนไว้ว่า “อ่านหนังสือเล่มนี่ แล้วชีวิตของคุณจะไม่เหมือมเดิมอีกต่อไป” จากนั้นผมก็พลิกดูปกหลังก็จะเขียนไว้ว่า “เรื่องราวชีวิตจริงของชายหนุ่มผู้ว่างงานโดยสมัครใจ เขาไม่ได้มีเพียงแผนการที่จะไม่อดตาย แต่ยังตั้งใจอยู่อย่างมั่งคั่งในทรัพย์สิน สุขภาพและเวลาอันเหลือเฟือ เพื่อชีวิตที่จะไม่ต้อง ลาออก จากที่ไหนอีกต่อไป” ผู้เขียนคือ ภาณุมาศ ทองธนากุล...

หนังสืออีกเล่มที่ผมอ่านแล้วรูปสึกประทับใจนั่นคือ รถบัสพลังชีวิต ที่พอได้อ่านแล้วรู้ทำให้ตัวเองมองสิ่งรอบตัวได้กว้างขึ้นและเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มไฟเติมพลังให้กับชีวิต การทำงาน หากคุณรู้สึกท้อแท้และพบปัญหาอุปสรรค์มากมายลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับจะทำให้คุณได้เห็นมุมมองอีกมุมหนึ่งของการใช้ชีวิตอย่างมีพลัง ด้วยกฎทอง 10 ประการที่จะเติมพลังให้กับชีวิตคุณ ส่วนหนึ่งในเนื้อหาของหนังสือ(ด้านปกหลัง) “ถ้าเปรียบเทียบชีวิตของเราทุกคนเหมือนรถบัสหนึ่งคับ สิ่งที่เราต้องทำก็คือกำหนดความต้องการและเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจน ความคิดเชิงบวกคือสิ่งที่จะเป็นเชื้อเพลิงขับดันรถแห่งชีวิตของคุณไปข้างหน้าได้ เปรียบเทียบไปก็เหมือนแต่ละวันเราต้องแวะขับรถบัสของเราเข้าไปในปั๊มน้ำมันของชีวิต ในปั๊มน้ำมันมีหัวจ่ายเชื้อเพลิงอยู่สองชนิดได้แก่ พลังเชิงบวกและพลังเชิงลบ คนเดียวที่จะเลือกเติมพลังชนิดไหนให้กับรถบัสพลังชีวิตของเราได้ก็คือตัวเราเอง…” ผู้แต่ง Jon Gordon...

เมื่อพูดถึง วิน เอี่ยมอ่อง หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักกันดี แต่หากพูดถึง ชายหนุ่มที่ได้ออกรายการตี 10 ที่ใช้พลังจิตทำให้ช้อนงอได้และแสดงโชว์ด้วยการใช้เทคนิคที่เรียกว่า “มายาจิต” ที่ทำให้ผมเองก็ทึ่งกับความสามารถของหนุ่มคนนี้ ด้วยการใช้เทคนิคทางจิตวิตยา มาใช้ในการแสดง และครั้งนี้ได้มีโอกาสได้เดินร้านหนังสือและได้เจอหนังสือสื่อเล่มนึงชื่อ “รู้แล้วเหยียบไว้ ” โดยรูปหน้าปกจะมีรูปของนาย “วิน เอี่ยมอ่อง” อยู่ที่หน้าปกเลย ทำให้ผมสะดุดตากับหนังสือเล่มนี้ทันที และได้เปิดอ่านดูคร่าว ๆ เป็นเรื่องที่เราสามารถใช้จิตวิทยาเข้ามาใช้ในการชักจูงผู้อื่นให้กระทำในสิ่งที่เราต้องการ (คล้ายๆ กับการพูดชักจูงใจให้คนอื่นเชื่อเรา อะไรทำนองนั้น) และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ เช่น นักขาย สามารถพูดเพื่อสร้างเพิ่มยอดขาย หรือชักจูงลูกค้าให้ซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ลองไปหาอ่านกันดูนะครับ ตามร้านหนังสือทั่วไป...

ชื่อหนังสือเล่มนี้ช่างโดนใจผมซะจริง ตั้งชื่อหนังสือได้แจ่มแจ๋ว พร้อมทั้งเขียนเกี่ยวกับ TENSE ได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย รู้ทัน…สันดาน Tense เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐีที่ชื่อว่า Tense มีเมีย 4 คน ชื่อ Simple,  Continuous, Perfect และ Perfect Continuous เมียแต่ละคนกำเนิลูกสาวอีกคนละ 3 รวมเป็น 12 ประมาณนางสิบสอง ผสม Back to the future เรื่องราวทั้งหมดจะเกี่ยวกับลูกสาวทั้งสิบสองของท่านเศรษฐี มีชิงรักหักสวาทหักมุมกันแค่ไหน สุดท้ายใครจะได้ครอบครองมรดกคงต้องอ่านกันเอาเอง ….. ผู้แต่งหนังสือ : เฑียร ธรรมดา เรียนรู้ TENSE อย่างลึกซึ้งถึงสันดาน เข้าใจ...

ติดตั้ง Blog WordPress ไว้ตั้งนานแล้วไม่ได้เขียนซักที วันนี้มีโอกาสดีได้ฤกษ์ดี ยามดี 555 ว่าไปนั่น อ้างไปอย่างนั้นแหล่ะครับ เพราะว่าที่ผ่านมาผมขี้เกียจเองครับ นึกครึ้มเลยขอประเดิม Post แรกซะเลย วันนี้ได้ออกไปกินข้าวกลางวันหน้าปากซอย เลยเดินแวะไปหาหนังสืออ่านที่ร้าน B2S ใกล้บ้าน ไปสอยหนังสือมาเล่มนึง ซึ่งหนังสือเล่มนี้เล็งไว้ตั้งแต่เข้าไปอ่านในร้านครั้งที่แล้วแต่ไม่ได้ซื้อเพราะว่ามันถูกห่อไว้อย่างแน่นหนาเลยยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ วันนี้ได้มีโอกาสเดินไปดูอีกทีเลยตัดสินใจซื้อ ด้วยด้านหลังหนังสือบอกไว้ว่า “หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วสนุกสุดยอด …..” ด้วยความอยากรู้ว่ามันจะสนุกจริงหรือเปล่าเลนตัดสินใจซื้อมาอ่าน หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ทิม ฮาร์ฟอร์ด นักเศรษฐศาสตร์ ที่เขียนหนังสือเศรษฐศาสตร์ให้อ่านและเข้าใจง่าย ซึ่งชี้ให้เห็นตรรกระของชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา ส่วนชื่อหนังสือเล่มนี่ก็คือ “The logic of life เศรษฐศาสตร์แห่งชีวิต ” ขอขอบคุณรูปจาก http://www.fringer.org  ตอนนี้ยังอ่านไม่จบครับอ่านไปได้หน่อยนึง สนุกดีเหมือนกัน ใครอยากอ่านก็ลองไปหาที่ร้านหนังสือละกันนะครับ...